Post by Trademaxthai Admin on Apr 14, 2023 0:01:09 GMT 7
EP3.คู่มือการเทรด Forex และทองคำ เบื้องต้น แบบ Workshop
สมมุติว่า เราต้องการเทรดคู่ GBPJPY ให้เราคลิกที่สัญลักษณ์ GBPJPY ด้วยการคลิกที่เมาส์ซ้ายค้างไว้
แล้วลากไปเมาส์ไว้ที่กราฟ ตรงกลางของโปรแกรม Meta Trader MT4 แบบในภาพ
1.เลือกคู่ที่เราต้องการเทรดในฝั่งซ้ายมือ แล้วลากไปที่ตรงกลางหน้าจอของโปรแกรม
2.เสร็จแล้วจะได้หน้าต่างกราฟ แสดงราคาปัจจุบันของคู่เงิน GBPJPY ขึ้นมาแบบในภาพ
3.ทำการ ตั้งค่า One Click Trading ในโปรแกรม Meta Trader MT4 ก่อน เพื่อความสะดวก
1.คลิกที่ปุ่ม Tools
2.เลือกเมนู Options
3.คลิกที่แท็ป Trade แล้ว ติ๊กถูกช่อง One Click Trading จากนั้น คลิกที่ ปุ่ม OK
4.คลิกขวา ตรงบริเวณ พื้นที่ว่างของกราฟ แล้วเลือก เมนู One Click Trading
5.เสร็จแล้ว จะได้ปุ่ม SELL กับปุ่ม BUY และจำนวน Lot Size ในการเข้าออเดอร์ ขึ้นมาแบบในภาพ
หลังจากที่เราตั้งค่าเสร็จแล้ว จะได้ปุ่มทำการซื้อ/ขาย ขึ้นมามุมซ้ายมือ แบบในภาพ
หลักในการซื้อขาย หรือการเก็งกำไรในตลาด Forex และทองคำ
โดยทั่วไป หลักการของนักลงทุนที่เข้ามาเทรดในตลาด Forex จะมีลักษณะคล้ายๆ กับตลาดหุ้น
โดยทั่วไป หลักการของนักลงทุนที่เข้ามาเทรดในตลาด Forex จะมีลักษณะคล้ายๆ กับตลาดหุ้น
ก็คือซื้อในช่วงที่ราคาถูก แล้วรอขายในช่วงที่ราคาแพงเพื่อทำกำไร เพียงแต่ในตลาด Forex เราสามารถทำกำไรได้ทั้งขาขึ้น และขาลง
เหมือนเป็นการเกาะรายใหญ่เพื่อทำกำไร
สมมุติว่า นักลงทุนหรือนักเทรด คิดว่าราคาจะขึ้น เค้าก็จะทำการกดที่คำสั่งซื้อ หรือคำสั่ง BUY
สมมุติว่า นักลงทุนหรือนักเทรด คิดว่าราคาจะขึ้น เค้าก็จะทำการกดที่คำสั่งซื้อ หรือคำสั่ง BUY
แต่หากนักลงทุนคิดว่าราคาจะลง เค้าก็จะกดที่คำสั่งขาย และคำสั่ง SELL
ต่อไปเป็นตัวอย่าง การเทรดครั้งแรกในฝั่ง SELL ด้วยการหาแนวต้านหรือ Supply ของราคาแบบง่ายๆ
ยกตัวอย่างคู่ GBPJPY ใน Time Frame H4 ในวันที่ 14 มีนาคม 2565
1.เลือกคู่เงิน GBPJPY แล้วจากนั้น ให้เราคลิกที่ปุ่ม H4 เพื่อดูการวิ่งของราคาใน Time Frame 4 ชั่วโมง
2.เนื่องจากตัวอย่างนี้ เป็นการเทรดในฝั่ง SELL เราจำเป็นจะต้องหาแนวต้านสำคัญของราคา
หรือจุดเข้า SELL ที่ได้เปรียบให้ได้มากที่สุด
ด้วยการกดปุ่มซูมออก ( Zoom Out ) กดออกมาให้กว้างที่สุด เนื่องจากเราต้องการดูร่องรอย
ของแนวต้านหรือ Supply ที่เคยเกิดขึ้นในอดีต
3.หากอธิบายง่ายๆ สำหรับผู้เริ่มต้น แนวต้าน หรือ Supply Zone ก็คือจุดที่ราคาเคยวิ่งขึ้นไป แล้วถูกเทขายกลับลงมา
หรือราคาฝั่ง BUY เคยขึ้นไปทดสอบแล้วไม่ผ่านโซนนั้น มีการวิ่งกลับลงมาอีกรอบ แบบตัวอย่างในภาพ
4.จากนั้น ให้เราหาจุดหรือโซนที่ราคา อยู่ในโซนเดียวกัน ให้มากที่สุด ซึ่งจะมีนัยยะสำคัญของตลาดซ่อนอยู่
แล้วให้คลิกที่ปุ่มตีเส้น แนวนอนอย่างน้อย 2 เส้น
จากนั้นตีเส้นแนวนอนในโซนที่ราคามีความสัมพันธ์กันให้มากที่สุด คล้ายๆ แบบตัวอย่างนี้
5.ส่วนด้านล่างนี้จะเป็น จุดของเส้นราคาปัจจุบันที่กำลังวิ่งอยู่
6.จากนั้น นักเทรดส่วนใหญ่จะรอให้ราคาวิ่งขึ้นมาในจุดนี้ แล้วค่อยเข้าออเดอร์ในฝั่ง SELL
ซึ่งคิดว่าเป็นจุดที่ได้เปรียบ เนื่องจากเป็นแนวต้าน Supply Zone ที่สำคัญ
7.เมื่อราคาวิ่งขึ้นมาถึงจุดดังกล่าว มือใหม่บางท่านอาจลองเข้าเทรดที่ 0.01 ก่อนในช่วงแรกๆ ของการเทรด
จากนั้นค่อยคลิกปุ่ม SELL ในจุดที่ได้เปรียบได้เลย
8.การตั้ง จุดตัดขาดทุนหรือ SL ( Stop Loss ) อย่างน้อยใน Time Frame ใหญ่อาจห่างจากจุดเข้าออเดอร์ 1 - 200 จุด
หรือ 20 pip ส่วนจุดทำกำไร TP ( Take Profit ) ต้องห่างจากจุดที่เข้าออเดอร์ 1 - 2 เท่าของจุด Stop Loss
เช่น SL ถอยห่างจากจุดที่เข้าออเดอร์ 100 จุด TP ต้องห่างออกไปอย่างน้อย 100 - 200 จุด จากจุดที่เข้าออเดอร์ เป็นต้น
เช่น SL ถอยห่างจากจุดที่เข้าออเดอร์ 100 จุด TP ต้องห่างออกไปอย่างน้อย 100 - 200 จุด จากจุดที่เข้าออเดอร์ เป็นต้น
( แต่ในการเทรดช่วงแรกๆ หลายท่านจะเฝ้ากราฟ แล้วกดปิดออเดอร์ก่อนถึงจุด TP ก็ได้เหมือนกัน )
คราวนี้ เราจะมาดูตัวอย่างการเข้าเทรดในฝั่งซื้อ หรือการเข้า BUY อีก 1 ตัวอย่าง
โดยจะใช้คู่สาธิตเป็น AUDJPY ใน Time Frame H4 ในช่วงวันที่ 14 มีนาคม 2565
1.ตั้งค่า Symbols ให้แสดงคู่เงิน AUDJPY ก่อน จากนั้นค่อยคลิกเมาส์ซ้ายค้างไว้ แล้วลากไปปล่อยตรงกลางจอของโปรแกรม
1.ตั้งค่า Symbols ให้แสดงคู่เงิน AUDJPY ก่อน จากนั้นค่อยคลิกเมาส์ซ้ายค้างไว้ แล้วลากไปปล่อยตรงกลางจอของโปรแกรม
2.จากนั้น ตรงนี้ ให้เราเลือกการแสดงราคาให้เป็นแบบ 4 ชั่วโมง หรือ Time Frame H4
3.จากนั้น คลิกที่ปุ่มซูมออก ( Zoom Out ) ออกมาให้สุดเพื่อหาร่องรอยที่เคยเกิดแนวรับ หรือ Demane ก่อนหน้านี้
4.เสร็จแล้ว คลิกที่ปุ่มนี้ เพื่อปิดการทำงาน จะทำให้เราสามารถเลื่อนซ้ายขวา เพื่อดูราคาย้อนหลังได้
5.จากนั้น ให้เราหาจุดที่เคยผลักดันราคาขึ้นไป เป็นจุดที่อยู่ในโซน หรือแนวเดียวกันให้มากที่สุด แบบในภาพ
6.เสร็จแล้ว คลิกที่ปุ่มตีเส้นแนวนอน ให้ตีเส้นแนวนอน อย่างน้อย 2 เส้น
ตีเส้นแนวนอนอย่างน้อย 2 เส้น แบบในตัวอย่าง
7.เสร็จแล้ว คลิกที่ปุ่ม Zoom In เพื่อให้เห็นกราฟชัดขึ้น และปุ่มล็อคการดูราคา ให้กลับมาทำงานอีกครั้ง
8.จากนั้น สำหรับคนที่เทรดในฝั่ง BUY เราจะรอให้ราคาวิ่งลงไปในโซนที่เราตีเส้นค้างไว้ แล้วค่อยกดปุ่ม BUY อีกทีได้เลย
ส่วนการตั้งจุดตัดขาดทุนหรือ SL ( Stop Loss ) กับจุดทำกำไร หรือ TP ( Take Profit )
เราสามารถใช้เทคนิคเดียวกันกับตัวอย่างฝั่ง SELL ด้านบนได้เลย
เนื่องจากตลาด Forex สามารถทำกำไรได้ทั้งฝั่ง ซื้อ ( BUY ) และฝั่ง ขาย ( SELL )
จะมีกฏง่ายๆ อยู่ 2 ข้อ ที่เราใช้ในการเทรด ก็คือ เข้า BUY เมื่อราคาลงมาที่แนวรับ และ เข้า SELL เมื่อราคาวิ่งขึ้นไปถึงแนวต้าน
จะมีกฏง่ายๆ อยู่ 2 ข้อ ที่เราใช้ในการเทรด ก็คือ เข้า BUY เมื่อราคาลงมาที่แนวรับ และ เข้า SELL เมื่อราคาวิ่งขึ้นไปถึงแนวต้าน
เพียงแต่ความยากจะอยู่ที่ใครจะหาแนวรับ แนวต้าน รวมไปถึงจุดที่เป็นจิตวิทยาของนักลงทุนรายใหญ่ได้แม่นกว่ากัน
ซึ่งจำเป็นต้องใช้ประสบการณ์ และการฝึกฝน แต่ผมมั่นใจว่าหากสมาชิกเพื่อนๆ ลองฝึกตามเทคนิค บทความที่ Admin ทำไว้ในเว็บบ่อยๆ
จะสามารถทำได้แน่นอนครับผม
EP ต่อไปเราสามารถฝึกเทรดตามแผนการเทรด หรือ Trade Setup ตาม Mentor ระดับโลกจากเว็บ Tradingview
ใน EP4. ได้เลยครับ
😀 บทความ และเทคนิคในห้องนี้ อาจใช้งานได้ไม่ 100 % ขึ้นอยู่กับความผันผวนของตลาด Forex และทองคำในช่วงนั้นๆ
เพื่อนๆ อาจนำไปประยุกต์ใช้งาน ให้เหมาะกับความถนัดของแต่ละคนอีกทีได้เลยครับ
😀 บทความ และเทคนิคในห้องนี้ อาจใช้งานได้ไม่ 100 % ขึ้นอยู่กับความผันผวนของตลาด Forex และทองคำในช่วงนั้นๆ
เพื่อนๆ อาจนำไปประยุกต์ใช้งาน ให้เหมาะกับความถนัดของแต่ละคนอีกทีได้เลยครับ