สภาวะตลาด Risk ON และ Risk OFF Part 2

Post by Trademaxthai Admin on Apr 10, 2023 23:07:48 GMT 7

แล้วเราจะรู้ได้ยังไงว่าตลาดหุ้นสหรัฐอเมริกา  อยู่ในสภาวะที่เป็น Risk ON และ Risk OFF

บทความนี้ อาจไม่ถูกต้อง 100 % เพื่อนๆ สามารถนำไปศึกษาเพิ่มเติมด้วยตัวเองอีกทีได้เลยครับ

1.เบื้องต้นสามารถเช็คได้จาก VIXY: PROSHARES VIX SHORT-TERM FUTURE
VIXY เป็นการติดตามภาพรวมของดัชนี S&P 500 VIX Short-Term Futures
หรือ " ดัชนีความกลัว วิตกกังวล หรือความไม่มั่นใจของนักลงทุน "

หากตลาดเป็น RISK-ON = VIXY จะลง / RISK-OFF = VIXY จะขึ้น

ลิงค์สำหรับเช็ค การขึ้น / ลง ของ VIXY ได้ที่ลิงค์นี้
👉 www.tradingview.com/symbols/AMEX-VIXY/

เราสามารถเช็คปัจจัยอื่นๆ ที่แสดงถึงภาวะตลาดว่าเป็น Risk ON หรือ Risk OFF
เพิ่มเต็มได้จากเว็บด้านล่างนี้ อีกทีได้เลยครับ
👉 www.fxstreet.com/technical-analysis/sentiment/risk-appetite

อีก 1 ข้อสังเกตส่วนตัว ช่วงที่ตลาดเป็น Risk ON หรือช่วงที่นักลงทุนมั่นใจในการลงทุน
โดยเฉพาะตลาดหุ้นหลักของอเมริกา ไม่ว่าจะเป็น Nasdaq , Dow Jones , S&P 500

เมื่อไรก็ตามที่ทั้ง 3 ดัชนี Nasdaq , Dow Jones , S&P 500 วิ่งเป็นเทรนขาขึ้นพร้อมกัน
จะทำให้ค่าเงินของประเทศที่ที่ส่งออกสินค้าโภคภัณฑ์ (Commodity ) ไม่ว่าจะเป็น
AUD,NZD,CAD นั้นแข็งค่าตามไปด้วย

และแน่นอนว่า เมื่อ AUD และ NZD แข็งค่ามากกว่าค่าเงิน USD
จะทำให้ค่าเงินเยนของญี่ปุ่น JPY อ่อนค่ามากในช่วงดังกล่าว เนื่องจากตลาดอยู่ในช่วง Risk ON

ตัวอย่างในภาพด้านล่างนี้ เป็นภาพเปรียบเทียบ ราคาของตลาด Nasdaq , Dow Jones , S&P 500
กับคู่เงิน AUDUSD และ AUDJPY จะเห็นว่าราคามีการกลับตัวของเทรนในช่วงเวลาใกล้เคียงกันมากๆ

หากเราสามารถหาปัจจัยที่เพิ่มความมั่นใจให้กับนักลงทุนได้
เราก็จะสามารถคาดการณ์ ตลาด Nasdaq , Dow Jones , S&P 500 ได้
และเมื่อเราสามารถคาดการณ์ทั้ง 3 ตลาดนี้ ไม่ยากเลยที่เราจะทำกำไรในคู่เงิน AUD และ NZD

สำหรับเพื่อนๆ ท่านใดที่ต้องการไปเช็ค Chart ของตลาดหุ้นสหรัฐ
เพื่อเปรียบเทียบดัชนี Dow jones,Nasdaq,S&P500 กับค่าเงิน AUDUSD,NZDUSD
สามารถเข้าไปที่เว็บไซต์ trademaxthai.blogspot.com/

จากนั้นเลื่อนลงไปที่ Sidebar ด้านขวามือ คลิกที่ Risk ON/Risk OFF
แบบในภาพนี้ได้เลย

จากนั้นเว็บจะพาเรามาที่หน้าเปรียบเทียบ Chart ในเว็บ Yahoo Finance แบบในภาพ

สีของเส้นราคาที่ตรงกัน

หากเราลองสังเกตที่กราฟก็จะเห็นว่าราคาดัชนีหุ้นสหรัฐ มีการกลับตัวขึ้นลงพร้อมกับคู่เงิน
AUD ( ดอลลาร์ออสเตรเลีย ) และ NZD ( ดอลลาร์นิวซีแลน์ ) นั่นก็เพราะหุ้นของบริษัทใหญ่ๆ
ของประเทศออสเตรเลียและนิวซีแลน์ก็ที่อยู่ตลาดหลักทรัพย์ของอเมริกาด้วยนั่นเอง
ส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มอุตสาหกรรม แร่ธาตุที่ไม่ให้พลังงาน เช่น อะลูมินั่ม และเหล็ก เป็นส่วนใหญ่