Post by Trademaxthai Admin on Apr 10, 2023 22:57:21 GMT 7
การศึกษาเกี่ยวกับสภาวะตลาดหุ้นที่เป็นแบบ Risk ON และแบบ Risk OFF ส่งผลต่อค่าเงินประเทศต่างๆ และทองคำ ยังไง ?
Risk ON และ Risk OFF Part 1
ในโลกของ Financial การเงิน และการลงทุน ที่ประกอบด้วย สินทรัพย์ ประเภทต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น
ตลาดหุ้น พันธบัตร สินค้าโภคภัณฑ์ รวมไปถึงสกุลเงินดิจิตอล แน่นอนว่า การลงทุน ย่อมมีความเสี่ยง
แต่นักลงทุนจะมีแผนการเสี่ยงแบบไหน เพื่อให้ได้ผลตอบแทน ให้มากที่สุด ในสภาวะตลาดที่เป็นแบบ Risk ON
และมีวิธีการเลี่ยงความเสี่ยงยังไง เมื่อสภาวะตลาดเป็น Risk OFF
ตลาดหุ้น พันธบัตร สินค้าโภคภัณฑ์ รวมไปถึงสกุลเงินดิจิตอล แน่นอนว่า การลงทุน ย่อมมีความเสี่ยง
แต่นักลงทุนจะมีแผนการเสี่ยงแบบไหน เพื่อให้ได้ผลตอบแทน ให้มากที่สุด ในสภาวะตลาดที่เป็นแบบ Risk ON
และมีวิธีการเลี่ยงความเสี่ยงยังไง เมื่อสภาวะตลาดเป็น Risk OFF
Risk ON คือช่วงที่ ตลาดหุ้น มีความเสี่ยงน้อย เนื่องจากมีปัจจัยหลายอย่าง สนับสนุนให้นักลงทุนไม่กลัวการลงทุน
กล้าที่จะเสี่ยง กล้าลงทุนใน Stock Market ต่างๆ
โดยมีปัจจัยที่สนับสนุนความกล้าที่จะลงทุนดังนี้ เศรษฐกิจที่ดีของประเทศนั้นๆ
หรือ บริษัทใหญ่ๆ ของตลาดหุ้นภายในประเทศมีผลประกอบการที่ดี หรือนโยบายของธนาคารกลาง กับนโยบายของรัฐบาล
ที่เกิดประโยชน์กับนักลงทุน ทำให้นักลงทุนเกิดความเชื่อมั่นในผลตอบแทนที่ดี และกล้าที่จะเสี่ยงในช่วงที่ตลาดมีความมั่นคงนั่นเอง
กล้าที่จะเสี่ยง กล้าลงทุนใน Stock Market ต่างๆ
โดยมีปัจจัยที่สนับสนุนความกล้าที่จะลงทุนดังนี้ เศรษฐกิจที่ดีของประเทศนั้นๆ
หรือ บริษัทใหญ่ๆ ของตลาดหุ้นภายในประเทศมีผลประกอบการที่ดี หรือนโยบายของธนาคารกลาง กับนโยบายของรัฐบาล
ที่เกิดประโยชน์กับนักลงทุน ทำให้นักลงทุนเกิดความเชื่อมั่นในผลตอบแทนที่ดี และกล้าที่จะเสี่ยงในช่วงที่ตลาดมีความมั่นคงนั่นเอง
Risk OFF คือช่วงที่นักลงทุนมีความกังวล หรือความกลัว
อาจมีผลมาจากนโยบายการขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลาง จากปัญหาเงินเฟ้อภายประเทศ
หรือนโยบายของรัฐบาล ไม่ว่าจะเป็น GDP ,การจ้างงาน และบางประเทศอาจมีเรื่องของสงครามเข้ามากดดัน หรือโรคระบาดรุนแรง
ซึ่งส่งผลต่อ Stock Market ของประเทศนั้นๆ เกิดความผันผวนสูง เลยทำให้นักลงทุนไม่มั่นใจต่อตลาด เลยย้ายเงินจากตลาดหุ้น
ไปไว้ในสินทรัพย์ที่ปลอดภัยแทน เช่น ย้ายไปลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลซึ่งมีความเสี่ยงน้อย หรือย้ายเงินไปลงทุนในทองคำเป็นต้น
อาจมีผลมาจากนโยบายการขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลาง จากปัญหาเงินเฟ้อภายประเทศ
หรือนโยบายของรัฐบาล ไม่ว่าจะเป็น GDP ,การจ้างงาน และบางประเทศอาจมีเรื่องของสงครามเข้ามากดดัน หรือโรคระบาดรุนแรง
ซึ่งส่งผลต่อ Stock Market ของประเทศนั้นๆ เกิดความผันผวนสูง เลยทำให้นักลงทุนไม่มั่นใจต่อตลาด เลยย้ายเงินจากตลาดหุ้น
ไปไว้ในสินทรัพย์ที่ปลอดภัยแทน เช่น ย้ายไปลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลซึ่งมีความเสี่ยงน้อย หรือย้ายเงินไปลงทุนในทองคำเป็นต้น
ช่วงที่ตลาดหุ้นอยู่ในภาวะ Risk ON และ Risk OFF
จะส่งผลให้ค่าเงินไหน แข็งค่า ค่าเงินไหน แข็งค่า เราสามารถเช็คจากภาพด้านล่างนี้ได้เลย
![](https://i.imgur.com/9IkgTEO.png)
หากเราสังเกตในภาพ จะเห็นว่าช่วงที่นักลงทุนเกิดความไม่มั่นใจในตลาดหุ้น หรือเกิดภาวะ Risk OFF
( โดยเราจะเน้นตลาดหุ้นของอเมริกาเป็นหลัก )
พวกเค้าจะซื้อสกุลเงิน ที่มีความปลอดภัยเก็บไว้ เลยทำให้ค่าเงิน JPY,CHF,EUR และ Gold ทองคำ จะแข็งค่าขึ้นมาทันที
( โดยเราจะเน้นตลาดหุ้นของอเมริกาเป็นหลัก )
พวกเค้าจะซื้อสกุลเงิน ที่มีความปลอดภัยเก็บไว้ เลยทำให้ค่าเงิน JPY,CHF,EUR และ Gold ทองคำ จะแข็งค่าขึ้นมาทันที
ซึ่งในช่วงที่ตลาดเป็น Risk ON ตลาดจะมี Demand หรือความต้องการสินค้าโภคภัณฑ์เหล่านี้สูงขึ้น
ซึ่งจะทำให้สกุลเงิน AUD / NZD / CAD แข็งค่าตามไปด้วยนั่นเอง
ซึ่งจะทำให้สกุลเงิน AUD / NZD / CAD แข็งค่าตามไปด้วยนั่นเอง
บทความนี้ หากผิดพลาดประการใด ทางทีมงานต้องขออภัยทุกท่านล่วงหน้ามาด้วยครับ
![:D](http://storage.proboards.com/forum/images/smiley/grin.png)