Post by Trademaxthai Admin on Apr 22, 2023 6:02:31 GMT 7
สิ่งที่นักลงทุนมักจะทำบ่อยๆ เมื่อดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐอเมริกาและน้ำมันดิบปรับราคาลดลง คือ ?
สิ่งที่นักลงทุนจะทำบ่อยๆ เมื่อดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐอเมริกามีแนวโน้มเป็นขาลง ซึ่งเป็นหนึ่งในวัฏจักรที่เกิดขึ้นในตลาดทุนซ้ำๆ
โดยเป็นการเปรียบเทียบดัชนี Dow Jones , Nasdaq , S&P500 กับดัชนี VIX S&P และ
โดยเป็นการเปรียบเทียบดัชนี Dow Jones , Nasdaq , S&P500 กับดัชนี VIX S&P และ
อัตราผลตอบแทนพันธบัตร 10 ปี สหรัฐฯ ผ่านเว็บ Tradingview.com ใน Time Frame 4 ชั่วโมง ( H4 ).
เนื่องจากกราฟดัชนี ทั้ง 3 ตลาดนี้ จะมีการวิ่งที่คล้ายๆ กัน. เมื่อใดที่ราคาขึ้น จะขึ้นพร้อมกัน เมื่อใดที่ราคาลง จะลงพร้อมๆ กัน
จากนั้น เมื่อเราลองเปรียบเทียบกับกราฟของดัชนี VIX S&P 500 หรือดัชนีความวิตกกังวลของนักลงทุนที่มีต่อตลาดหุ้นสหรัฐ ก็จะพบว่ากราฟของ VIX S&P500 มีการวิ่งสวนทางขึ้นมา แบบในภาพ
ซึ่งหลังจากที่หุ้น 3 ตัว มีแนวโน้มของราคา เป็นขาลง สิ่งที่เค้าจะทำซ้ำๆ จนเหมือนเกิดขึ้นอัตโนมัติมีดังนี้
1.เมื่อดัชนีหุ้นสหรัฐ เริ่มเป็นเทรนขาลง พวกเขาจะย้ายเงินลงทุนที่ไปที่ตลาดทองคำ ซึ่งจะทำราคาทองคำต่อดอลลาร์สูงขึ้น
1.เมื่อดัชนีหุ้นสหรัฐ เริ่มเป็นเทรนขาลง พวกเขาจะย้ายเงินลงทุนที่ไปที่ตลาดทองคำ ซึ่งจะทำราคาทองคำต่อดอลลาร์สูงขึ้น
2.เมื่อดัชนีหุ้นสหรัฐ เริ่มเป็นเทรนขาลง พวกเข้าจะย้ายเงินอีกส่วนไปซื้อ พันธบัตรสหรัฐอเมริกา 10 ปี ( US10Y ) เพื่อประกันความเสี่ยง เนื่องจากมีผลตอบแทนรองจากทองคำ
3.เมื่อที่ดัชนีหุ้นสหรัฐ เริ่มเป็นเทรนขาลง พวกเข้าจะย้ายเงินอีกส่วนไปซื้อเงิน USD เก็บไว้ เพื่อเก็งกำไรในระยะสั้น : ซึ่งจะทำให้ดัชนีดอลลาร์ INDEX หรือ DXY เพิ่มขึ้น
และเมื่อดัชนีดอลลาร์ Index เพิ่มขึ้น สิ่งที่ตามมาคือ คู่เงิน USD ที่อยู่ในตลาด Forex จะแข็งค่าขึ้นทันที ยกตัวอย่างคู่ AUDUSD
ยกตัวอย่างอีกคู่ เป็น USDJPY คู่นี้ค่าดอลลาร์สหรัฐจะอยู่ด้านหน้า ซึ่งหากกราฟวิ่งขึ้นไปแบบในภาพหมายถึง
ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่ามาก ส่วนค่าเงินที่อยู่ด้านหลัง คือค่าเงินเยนของญี่ปุ่น ซึ่งจะอ่อนค่ามาก เมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์สหรัฐฯ
อาจสรุปคร่าวๆ ได้ว่า เมื่อใดก็ตามที่เราสามารถมองเห็นแนวโน้มการกลับตัวของดัชนีตลาดหุ้นสหรัอเมริกา
ว่าจะเป็นแนวโน้มขาขึ้น หรือแนวโน้มของขาลง จาก Time Frame H4 ได้ ก็มีโอกาส ที่เราอาจคาดการณ์ราคาคู่เงินดอลลาร์ USD และตลาดทองคำได้นั่นเอง
เราสามารถเข้าไปเช็คดัชนีตลาดหุ้น Dow Jones,Nasdaq,S&P500 ของสหรัฐอเมริกา
เปรียบเทียบดัชนีความวิตกกังวลของนักลงทุน หรือ VIX S&P และอัตราผลตอบแทนพันธบัตร 10 ปี สหรัฐฯ
ในภาพด้านล่างนี้ เส้นสีน้ำเงิน = คู่ทองคำ XAUUSD / เส้นสีเขียว = ดัชนี S&P500 / เส้นสีดำ
= อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ US10Y / เส้นสีแดง = VIX S&P ดัชนีความกังวลของนักลงทุน
PART 2 ด้านล่างนี้จะเป็นการเปรียบเทียบราคาน้ำมันดิบ กับตลาดหุ้น S&P500 ของสหรัฐฯ ที่มีผลต่อสกุลเงิน US Dollar
และเมื่อใดที่หุ้นสหรัฐฯ ร่วงหรือเป็นขาลง มักจะส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบ WTI Crude Oil ร่วงตามไปด้วย
เนื่องจากหุ้นส่วนใหญ่ที่อยู่ในตลาดหุ้นสหรัฐฯ จะมากจากกลุ่มพลังงานน้ำมัน ซึ่งมีผลต่อการเคลื่อนที่ของตลาดค่อนข้างมาก และเมื่อใดที่ราคาน้ำมันร่วง หุ้นมักจะร่วงไปด้วย.
ตัวอย่างในภาพต่อไปนี้ จะเป็นการเปรียบเทียบการขึ้นลงของ ตลาด S&P 500 และราคาน้ำมันดิบ ใน Time Frame 1 วัน ( D1) เพื่อให้ทุกคนเห็นภาพมากยิ่งขึ้น
เนื่องจากหุ้นส่วนใหญ่ที่อยู่ในตลาดหุ้นสหรัฐฯ จะมากจากกลุ่มพลังงานน้ำมัน ซึ่งมีผลต่อการเคลื่อนที่ของตลาดค่อนข้างมาก และเมื่อใดที่ราคาน้ำมันร่วง หุ้นมักจะร่วงไปด้วย.
ตัวอย่างในภาพต่อไปนี้ จะเป็นการเปรียบเทียบการขึ้นลงของ ตลาด S&P 500 และราคาน้ำมันดิบ ใน Time Frame 1 วัน ( D1) เพื่อให้ทุกคนเห็นภาพมากยิ่งขึ้น
ตัวอย่างที่ 2 เมื่อราคาน้ำมันดิบขึ้น จะเห็นว่าดัชนี S&P500 วิ่งขึ้นไปด้วย
ตัวอย่างที่ 3 จะเห็นว่าเมื่อราคาน้ำมันเส้นสีแดงวิ่งขึ้น ดัชนี S&P500 เส้นสีน้ำเงินจะขึ้นตาม
และเมื่อเส้นสีแดงกลับตัวลง เส้นสีน้ำเงินจะลงตามมาด้วย
และเมื่อเส้นสีแดงกลับตัวลง เส้นสีน้ำเงินจะลงตามมาด้วย
และแน่นอนว่าเมื่อใดที่ราคาน้ำมันดิบร่วงกับตลาดหุ้นสหรัฐฯ ตกพร้อมกัน. สิ่งที่มักจะตามมาอีกอย่าง
นั่นก็คือ ค่าเงินประเทศแคนาดา หรือ CAD ( แคนาดาดอลลาร์ ) จะอ่อนค่าตามไปด้วย.เนื่องจากประเทศแคนาดาเป็นผู้ส่งออกน้ำมันรายใหญ่ในทวีปอเมริกา
หลังจากที่เราเริ่มมองเห็นแนวโน้มราคาน้ำมันดิบ กับตลาดหุ้น S&P500 ว่าเริ่มเป็นเทรนของขาลงแล้ว
สิ่งที่เราจะทำต่อมาก็คือ พยายามมองหา กรอบของราคาน้ำมันดิบ และดัชนี S&P500
สิ่งที่เราจะทำต่อมาก็คือ พยายามมองหา กรอบของราคาน้ำมันดิบ และดัชนี S&P500
ใน Time Frame H4 หรือ Time Frame Day ให้เจอ โดยเฉพาะบริเวณที่เป็นแนวรับ หรือ Demand Zone
คราวนี้ สมมุติว่าเราเจอจุดที่เป็น Demand Zone แนวรับใน Time Frame Day แล้ว
จากนั้น ให้เราใช้เครื่องมือ ตรงนี้ เลือก Horizontal Line
แล้วเลื่อนเมาส์ไปคลิก ตรงที่เกิด Demand Zone. จะได้เส้นแนวนอน ที่เป็นสีแดงแบบในภาพ ซึ่งจะทำให้เรามองกรอบของราคาได้ชัดเจนขึ้น
คราวนี้ เราจะเห็นว่าราคายังวิ่งลงไปไม่ถึงจุดที่เราตีเส้นไว้. แต่หากเราคิดว่าราคาเค้าน่าจะลงไปถึงแน่ๆ
นั่นหมายถึงค่าเงิน USD น่าจะต้องแข็งค่าขึ้นตามไปด้วย. และยิ่งไปกว่านั้น หากราคา S&P500 หลุดเส้นแนวรับที่เราตีเส้นไว้ อาจส่งผลให้ค่าเงิน USD แข้งค่าขึ้นไปอีกนั่นเอง
ภาพด้านล่างนี้ เป็นการยกตัวอย่างการ เข้าออเดอร์ BUY ผ่านโปรแกรม Exness Meta Trader MT4 สำหรับมือใหม่
ภาพและเนื้อหาในโพสนี้ จัดทำขึ้นมาเพื่อใช้ในการศึกษา ที่เป็นไอเดียส่วนตัวเท่านั้น
โพสนี้อาจเป็นไอเดียให้ใครหลายๆ คน ที่กำลังเริ่มต้น ในการเทรด Forex ไม่มากก็น้อยครับผม
สำหรับเพื่อนคนไหน ที่กำลังเริ่มต้นเรียนรู้เกี่ยวกับการเทรด Forex และทองคำ.
อย่าเพิ่งไปเปิดออเดอร์จริงนะครับ Admin อยากให้เราลองฝึกเทรดด้วยโปรแกรมจำลองก่อน เพื่อลดความเสี่ยง
โพสนี้อาจเป็นไอเดียให้ใครหลายๆ คน ที่กำลังเริ่มต้น ในการเทรด Forex ไม่มากก็น้อยครับผม
สำหรับเพื่อนคนไหน ที่กำลังเริ่มต้นเรียนรู้เกี่ยวกับการเทรด Forex และทองคำ.
อย่าเพิ่งไปเปิดออเดอร์จริงนะครับ Admin อยากให้เราลองฝึกเทรดด้วยโปรแกรมจำลองก่อน เพื่อลดความเสี่ยง
และให้เกิดความชำนาญในการใช้งานโปรแกรม Meta Trader 4 ( MT4 )
ซึ่งเราสามารถเข้าไปศึกษาได้จากคู่มือการติดตั้งโปรแกรมแบบง่ายและรวดเร็ว Step by Step
ซึ่งเราสามารถเข้าไปศึกษาได้จากคู่มือการติดตั้งโปรแกรมแบบง่ายและรวดเร็ว Step by Step